Category Archives: อสังหาริมทรัพย์

การสร้างความเชื่อมั่นจากสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน

ในวงการธุรกิจรับสร้างบ้านมีทั้งผู้ประกอบการมืออาชีพที่แข็งแกร่ง และผู้ประกอบการรายเล็กๆจำนวนมาก ในปัจจุบันธุรกิจรับสร้างบ้านยังไม่มีเวทีกลางหรือหน่วยงานที่เป็นตัวแทนในการดำเนินงานและประสานธุรกิจ ทั้งในส่วนการประสานงานเพื่อร่วมมือกันพัฒนาและสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ หรือประสานงานกับหน่วยงานของรัฐ ภาคธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการเป็นเวทีกลางเชื่อมต่อในการทำกิจกรรมเพื่อสังคม และสร้างการยอมรับในธุรกิจแก่ผู้บริโภคและประชาชนได้เข้าใจและเชื่อมั่น ดังนั้นสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านจึงได้ถือกำเนิดขึ้น เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางหรือเวทีกลาง ในความร่วมมือของบรรดาผู้ประกอบการที่มารวมตัวกัน

การจะยกระดับมาตรฐานบริษัทรับสร้างบ้านให้เป็นที่ยอมรับนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานอย่างสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านจะต้องดำเนินการให้เป็นรูปธรรมอย่างมีแบบแผนและเป็นระบบ การส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการที่พร้อมจะพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถ เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญและเร่งรัดพัฒนา ควรมีความกล้าหาญที่จะคัดแยกผู้ประกอบการที่ขาดคุณสมบัติออกไปจากความเป็นสมาชิกและระบบธุรกิจรับสร้างบ้าน โดยไม่เอาความเป็นพวกพ้องมาปะปนกับหลักปฏิบัติที่ถูกต้อง เพราะมิฉะนั้นจะทำให้ขาดความเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง และขาดความน่าเชื่อถือในสายตาของผู้บริโภคได้ในอนาคต แม้ผู้บริโภคไม่มั่นใจต่อภาวะการเมืองและเศรษฐกิจในปีนี้ แต่เป็นที่ยอมรับกันดีว่ามีผลกระทบต่อกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านน้อยกว่าผู้ประกอบการบ้านจัดสรร เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการออมเงินสูง และมักใช้เงินสดแทนการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน

โอกาสการเติบโตของภาพรวมธุรกิจก็มีเช่นกัน เพราะผู้ประกอบการมีการขยายตลาดใหม่ในภูมิภาคเพิ่มมากขึ้น ทั้งการขยายสาขาของรายเดิม และการเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหม่ โดยพบว่าทำเลหรือพื้นที่ที่มีการขยายตลาดและเข้ามาแข่งขันกันมากที่สุดได้แก่ ภาคอีสาน และภาคกลาง เช่น นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี สระบุรี ราชบุรี เป็นต้น การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งในเรื่องการยกระดับมาตรฐานการสร้างบ้าน ที่จะลดการพึ่งพาแรงงานให้น้อยลงและหันมาใช้เครื่องมือหนัก และเครื่องมือเบาในการก่อสร้างบ้านมากขึ้น เช่น รถเครน เครื่องฉาบปูน เครื่องพ่นสี เป็นต้น โดยพยายามผลักดันและส่งเสริมให้สมาชิกเปลี่ยนมาใช้วิธีก่อสร้างบ้านที่เน้นใช้ช่างเทคนิค และเครื่องมือแทนการใช้แรงงาน เพื่อจะยกระดับมาตรฐานการสร้างบ้านของสมาชิกให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้น

การพัฒนาธุรกิจที่ดินด้านตะวันออกเฉียงเหนือและหัวเมืองจังหวัดชายทะเล

ธุรกิจการซื้อขายที่ดินโดยเฉพาะที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยนั้นมีสภาพคล่องน้อยมาก

เนื่องจากในช่วงที่เกิดวิกฤติหรือในช่วงไหนก็ตามที่มีการซื้อขายเปลี่ยนมือน้อย และแม้จะมีการซื้อขายบ้าง ข้อมูลก็ไม่ได้เผยแพร่ออกไปให้เป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวาง    ว่าที่จริงก็ไม่ค่อยมีใครแคร์ว่าราคามันจะเป็นเท่าไร ถ้าเขาไม่ได้คิดจะขายบ้านที่ตนเองอาศัยอยู่ ส่วนคนที่รู้ว่าราคาที่ดินลดลงก็คือคนที่ซื้อที่ดินที่พบว่าราคามันถูกลงไปพอสมควรในปีนั้น ซึ่งเหตุผลสำคัญที่ที่ดินราคามีแต่จะขึ้นนั้นเป็นเพราะพื้นฐานของราคาที่ดินในภาพกว้างมักจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆโดยมีแนวโน้มค่อยๆปรับตัวขึ้นตามภาวะเงินเฟ้อและการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในชุมชนที่ที่ดินตั้งอยู่ ซึ่งทั้งเงินเฟ้อและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจนั้น ดังนั้นราคาที่ดินจึงมักจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามเกือบทุกปีเหมือนกัน

ที่ผ่านมาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีความคึกคักเป็นอย่างมาก ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาคจากปัจจัยบวกที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำ การแข่งขันการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ แต่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ดูเหมือนว่าจะอาศัยการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเป็นจุดขายมากที่สุดคงไม่พ้น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาค ซึ่งมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะมีสาเหตุมาจากการเติบโตของกิจกรรมเศรษฐกิจในภูมิภาค และการที่ประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่ AEC ที่มีส่วนช่วยกระตุ้นกิจกรรมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน สาเหตุอีกส่วนหนึ่งน่าจะมาจากแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของภาครัฐ ซึ่งช่วยเปิดพื้นที่ศักยภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในหลายจังหวัด โดยเฉพาะในตะวันออกเฉียงเหนือและหัวเมืองจังหวัดชายทะเล

เชื่อว่าการเมืองในระยะสั้นนี้อาจไม่มีผลกระทบต่อราคาที่ดิน ในบริเวณพื้นที่ชุมนุมทางการเมืองหลายจุดในเขตใจกลางเมืองของกรุงเทพมหานคร อาจทำให้รายได้ลดลงไปบ้าง แต่ก็คงไม่มีผลในระยะยาว เชื่อว่าในระยะยาวตลาดที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพราะเศรษฐกิจไทยโดยรวมยังมีความแข็งแกรงอยู่ และหากได้รับการสนุนสนุนจากโครงการสาธารณูปโภค โดยในเขตกรุงเทพมหานครที่ดินที่มีราคาที่ดินต่ำสุด จะอยู่ในเขตรอบนอก เพราะไม่มีสาธารณูปโภคเท่าที่ควร

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะปรับตัวอย่างไร เมื่อความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลง

แม้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ แต่ยังถือได้ว่าเติบโตต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เมื่อเทียบกับศักยภาพที่มีและเทียบกับภูมิภาค ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้นคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 5% ของ GDP ซึ่งต่ำกว่าระดับ 10% ของ GDP ในยุคเฟื่องฟูก่อนหน้าที่จะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจเอเชียอย่างมาก โดยระดับราคาในธุรกิจนี้ยังคงอยู่ในระดับเดียวกันหรือต่ำกว่าแนวโน้มของภูมิภาค โดยเฉพาะในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์

ปัจจัยด้านโครงสร้างมีผลต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยอย่างยิ่ง สัดส่วนของประชากรที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองนั้นต่ำมากเมื่อเทียบกับระดับรายได้ ประชากรไทยเพียง 32% เท่านั้นที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค เช่น อินโดนีเซีย (48%) มาเลเซีย (68%) และเกาหลี (81%) ยิ่งไปกว่านั้น การไม่มีชุมชนเมืองขนาดใหญ่ในพื้นที่นอกกรุงเทพฯ ทำให้กรุงเทพฯ มีสัดส่วนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ได้สมดุลกับพื้นทื่อื่น ๆ ในไทย โดยปัจจุบันกรุงเทพฯ มีการออกใบอนุญาตก่อสร้างเกือบครึ่งหนึ่งของที่อยู่อาศัย และกว่า 75% ของพื้นที่สำนักงาน ลักษณะความต้องการที่อยู่อาศัยกำลังเปลี่ยนแปลง โครงสร้างของครัวเรือนกำลังเปลี่ยนไป โดยจำนวนครัวเรือนแบบใหม่ๆ (เช่น คนที่อาศัยอยู่คนเดียว ครอบครัวคู่สมรสไม่มีบุตรและครอบครัวที่ไม่ใช่ครัวเรือนเดี่ยว) เพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับสัดส่วนของประชากร  นอกจากนี้ ความต้องการที่อยู่อาศัยแต่ละประเภทก็เปลี่ยนแปลงด้วย ครัวเรือนรายได้ระดับปานกลางมีความต้องการอาศัยในทาวน์เฮ้าส์มากขึ้น ขณะที่กลุ่มรายได้ระดับสูงชอบอาศัยในบ้านเดี่ยว

อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจมากคือ จะมีการเปลี่ยนแปลงของความต้องการภายในตลาดที่อยู่อาศัยประเภทนั้นๆ ด้วย จากโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลงไปนั่นเอง เราได้ระบุตลาดหลัก (segment) สำหรับที่อยู่อาศัยแต่ละประเภท ทั้งที่เป็นตลาดเดิมและตลาดที่เกิดขึ้นมาใหม่ พร้อมทั้งอธิบายลักษณะและความต้องการของตลาดดังกล่าว ตัวอย่างเช่น ครอบครัวที่ไม่ใช่ครัวเรือนเดี่ยวที่อาศัยในทาวน์เฮ้าส์มีแนวโน้มที่จะมีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งส่งผลให้มีความต้องการห้องนอนหลายห้องมากกว่าครอบครัวคู่สมรสมีบุตร

ยิ่งไปกว่านั้น มีการประเมินว่าธุรกรรมที่เกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ คิดเป็นเกือบ 70% ของมูลค่าธุรกรรมของทั้งประเทศในปี 2009 แสดงให้เห็นว่า กรุงเทพฯ เป็นตลาดที่มีผู้แข่งขันมาก ทั้งๆ ที่มีพื้นที่จำกัด จากการวิเคราะห์ของเราพบว่า ความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประกอบกับการตอบสนองความต้องการเฉพาะของทั้งตลาดเดิมและตลาดที่เกิดขึ้นมาใหม่ซึ่งเป็นผลจากโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลงไป ล้วนเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการได้

การโฆษณาและประชาสัมพันธ์ธุรกิจขายบ้านเก่าอย่างไร ให้ได้ราคา

บ้านเก่า ที่หลายๆท่านอยากขายเพื่อไปซื้อบ้านใหม่ หรือต้องการทำเลดีใกล้ที่ทำงานนั้นไม่ใช่เรื่องยอกแต่หากถ้ามีเคล็ดลับซึ่งทุกท่านอาจจะต้องลงมือลงแรงกันหน่อย เพื่อให้บ้านขายได้ราคาตามสมควร

การโฆษณาและประชาสัมพันธ์
การโฆษณาและประชาสัมพันธ์เป็นปัจจัยสำคัญก่อให้เกิดโอกาสขายได้เร็วและโอกาสขายได้ราคาดี หากทำได้ดีมีคนสนใจมาก คำพูดในการโฆษณาควรที่จะดึงดูดจูงใจ เราควรวิเคราะห์บ้านที่จะขายถึงข้อดีแล้วนำมาใช้โฆษณา เราอาจะประชาสัมพันธ์โดยวิธีการดังนี้

– ลงประกาศหนังสือพิมพ์ หรือนิตยสารเกี่ยวกับบ้าน (มีทั้งฟรีและเสียเงิน)
– ลงประกาศในอินเตอร์เน็ตในเว็ปไซด์ดังๆ ต่าง (มีที่ให้ประกาศฟรีเยอะแยะ)
– ติดป้ายประกาศขายหน้าบ้าน
– ติดป้ายตามที่สาธารณะต่างๆ (ติดได้ไม่นานเพราะจะถูกแกะทิ้งโดยเทศกิจ)
– ทำป้ายประกาศขายติดรถยนต์

ผู้ขาย
ผู้ขายต้องมีทัศนคติที่ดีกับการขาย อย่าใช้อารมณ์และหงุดหงิดง่าย เมื่อต้องคุยกับคนแปลกหน้า เป็นธรรมดาที่คนซื้อต้องต่อราคา บางคนจู้จี้ ถามละเอียดยิบ ให้รู้ว่าคนถามมากๆ แสดงว่าสนใจมาก และแปลว่าโอกาสขายได้กับคนอย่างนี้ก็มากด้วย เพราะเป็นคนซื้อเพื่ออยู่เอง ควรมีความยืดหยุ่นบ้างจะทำให้การเจรจาเป็นไปอย่างรอมชอมและมีโอกาสสำเร็จมากขึ้น

นอกจากนี้ควรที่จะหาเหตุผลที่ดีๆ ในการตอบลูกค้าว่าทำไมเราจึงต้องขายบ้านหลังนี้ไว้แต่เนินๆ เพราะรับรองว่าผู้จะซื้อทุกคนต้องถามแน่ๆ มันเป็นเป็นสัจธรรมที่ คนทุกคนไม่อยากได้ของที่ไม่ดี หากเราตอบไปในแนวทางที่ให้ผลลบ เพราะบ้านไม่ค่อยดี เราจะขายไม่สำเร็จ หากบางคนไม่ชอบการเจรจาขายเองก็สามารถใช้บริการของนายหน้าขายบ้านมือ2 ซึ่งเขาจะเก็บค่านายหน้าเมื่อขายได้ โดยจะเรียกเก็บประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ของราคาขายหรือแล้วแต่ตกลง โดยนายหน้าจะทำการโฆษณาให้เราเอง การจะตกลงให้ใครเป็นนายหน้าขาย อย่าลืมกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดด้วยว่า จะให้เขาขายให้ภายในวันที่เท่าไหร่ หากพ้นกำหนดดังกล่างให้ถือว่าสัญญาแต่งตั้งนายหน้าเป็นอันสิ้นสุดจะได้ไม่เสียเปรียบ เพราะถ้าเราให้เขาขาย นายหน้าเหล่านี้จะจับเรามัดทำสัญญาแต่งตั้งเขาเป็นนายหน้าขายแต่เพียงผู้เดียว ถ้ามีการซื้อ-ขายในช่วงเวลาที่เรามิได้เลิกให้เราเป็นนายหน้า แล้วเราไปขายเองหรือให้คนอื่นที่มิใช่เขาขายให้ เราจะต้องเสียค่านายหน้าให้เขาด้วย

เงื่อนไขการขาย
เงื่อนไขการขายนั้นประกอบด้วยข้อจำกัดต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้ เช่นค่าภาษีต่างๆ ในการโอนกรรมสิทธิ์ซึ่งประกอบด้วย ค่าธรรมเนียมการโอน, ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายและภาษีธุรกิจเฉพาะ ใครเป็นผู้ออก การทำสัญญาจะซื้อจะขายให้วางเงินมัดจำเท่าไร, ระยะเวลาจากวันทำสัญญาจะซื้อจะขายถึงวันโอนกรรมสิทธิ์กี่วัน สัญญาจะซื้อจะขายนั้นมีแบบมาตราฐานขายทั่วไปซึ่งควรใช้แบบสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินแล้วบรรยายเพิ่มเติมในส่วนของสิ่งปลูกสร้าง

บ้านที่จะขาย
บ้านที่จะขายควรดูแลหรือปรับปรุงให้อยู่ในสภาพที่ไม่ทรุดโทรม บ้านที่ดูดี สะอาด เป็นระเบียบนั้นย่อมจูงใจให้ผู้ซื้อตัดสินใจง่ายและย่อมจ่ายในราคาที่ดีกว่า หากเราปล่อยปะละเลยบ้านให้ทรุดโทรม สกปรก ไม่น่าอยู่ พอประชาสัมพันธ์ออกไป คนก็จะมองข้อบกพร่องเหล่านี้ ท้ายที่สุดก็จะเป็นเหตุให้ติเพื่อต่อราคาลงมากๆ เป็นผลให้ขายยากและขายได้ราคาต่ำ ฉะนั้นเราควรที่จะดูแลบ้านให้อยู่ในลักษณะที่ดีก่อนจะประชาสัมพันธ์ขาย

เมื่อได้จัดการสิ่งต่างๆ บนปัจจัยสำคัญ ข้อข้างต้นอย่างรอบคอบ พิจารณาถึงความสมเหตุสมผลของราคาขาย, ความเร่งด่วนในการขาย(กรอบเวลา) วิเคราะห์สิ่งต่างๆ บนพื้นฐานข้อเท็จจริง ไม่หลอกตัวเอง ตั้งใจ จริงจังและใส่ใจการประชาสัมพันธ์ โดยการเน้นที่จุดเด่นของบ้านในการจูงใจผู้ซื้อ หากดำเนินการอย่างเป็นระบบดังนี้เชื่อว่าปัญหาการขายบ้านหลังเก่านั้นจะไม่ใช่เรื่องยากเย็นอีกต่อไป

การใช้วารสารในการโฆษณาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เป็นที่รู้จัก

การใช้สื่อโฆษณาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นับเป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งของผู้ดำเนินธุรกิจประเภทนี้ เนื่องจากสินค้าอสังหาริมทรัพย์ มีความหมายตามชื่อ คือเป็นสินค้าที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปให้ลูกค้าเป้าหมายชมได้ถึงที่ จึงจำเป็นต้องใช้สื่อโฆษณาจำนวนมากเพื่อจูงใจให้ลูกค้ามาเยี่ยมชม ณ สถานที่ตั้งสินค้า ซึ่งก็คือที่โครงการบ้านจัดสรรหรือคอนโดมิเนียมลูกค้าเป้าหมายของสินค้าอสังหาริมทรัพย์ อยู่กันอย่างกระจัดกระจาย ไม่ได้รวมตัวกันอยู่เป็นกลุ่มก้อน และไม่มีสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งที่จะเป็นแหล่งรวมหรือที่ชุมนุมกันของคนกลุ่มนี้

นอกจากนี้ สินค้าอสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่สินค้าที่ซื้อซ้ำ ในวงจรชีวิตของลูกค้าจะซื้อสินค้าบ้านเมื่อเริ่มต้นมีครอบครัวเป็นครั้งแรก ต่อมาบางส่วนเมื่อมีรายได้มากขึ้นก็จะซื้อบ้านที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และมีเพียงส่วนน้อยที่ซื้อบ้านพักไว้สำหรับวัยชรา กล่าวได้ว่า คนส่วนใหญ่ในตลอดช่วงชีวิตจะมีการซื้อสินค้าที่อยู่อาศัยเพียงครั้งเดียวดังนั้น จึงทำให้การสื่อสารการตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยากทำให้งบค่าใช้จ่ายด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์โครงการอสังหาริมทรัพย์ เป็นงบประมาณที่ค่อนข้างสูง ถ้าไม่นับเงินลงทุนซื้อที่ดิน เงินค่าก่อสร้างแล้ว งบค่าโฆษณาน่าจะเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่สามารถบริหารงบโฆษณามีประสิทธิภาพสูงสุด สามารถควบคุมวงเงินได้ที่ประมาณ 1.5% ของยอดขาย แต่ส่วนใหญ่มักจะอยู่ที่ประมาณ 3.0-5.0% ทั้งนี้ไม่นับรวมการรณรงค์โฆษณาประชาสัมพันธ์กรณีพิเศษ เช่น การเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ การสร้างภาพลักษณ์เปิดตัวโครงการใหม่

ปัญหาใหญ่หรือข้อขัดแย้งพื้นฐานของการใช้งบโฆษณาอสังหาริมทรัพย์ คือ สินค้าอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียมนั้น เป็นสินค้าท้องถิ่น แต่สื่อโฆษณาที่ใช้ส่วนใหญ่จำเป็นต้องใช้สื่อแมสมีเดียที่ครอบคลุมทั่วประเทศพฤติกรรมการซื้อที่อยู่อาศัยนั้น คนที่เคยอยู่ทำเลไหน ก็มักจะซื้อบ้านในย่านนั้นๆ เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากปัจจัยในการพิจารณาทำเลของผู้บริโภคนั้นขึ้นอยู่กับสถานที่ทำงานของพ่อแม่ สถานศึกษาของลูกและบ้านญาติพี่น้องเป็นสำคัญ แม้แต่ในพื้นที่ของกรุงเทพฯ และจังหวัดปริมณฑลเอง หากแบ่งแยกพื้นที่ออกเป็นโซนใหญ่ๆ แล้ว จะพบว่าประมาณ 60% คนจะซื้อบ้านในโซนเดิม อีกประมาณ 30-40% จึงมีการเคลื่อนย้ายไปซื้อบ้านในโซน อื่นของกรุงเทพฯ

การใช้สื่อประเภทสิ่งพิมพ์เพื่อประชาสัมพันธ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

Business-Industry-45634

ท่ามกลางสภาวะการแข่งขันที่ทวีความรุนแรง

แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มีตัวตนที่แตกต่างอย่างชัดเจน เป็นแรงผลักดันในการสร้างคุณค่าและจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจเป็นเครื่องกำกับ การทุ่มงบประมาณในการโฆษณาประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ในระยะสั้นเพื่อหวังผลเพียงยอดขายโดยขาดสำนึกรับผิดชอบอาจไม่บรรลุผลในยุคของสังคมข่าวสารและเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตที่ผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจและตระหนักในสิทธิ การบริหารประสบการณ์ลูกค้าและการบริการหลังการขายยังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างความแตกต่างและเป็นจุดแข็งที่ทำให้แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ของบริษัทได้รับการบอกต่อและเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง

การใช้เครื่องมือหรือตัวกลางที่ใช้ในการนำข่าวสาร เรื่องราว จากองค์กรหรือหน่วยงานไปสู่ประชาชน โดยสื่ออาจจำแนกได้หลายประเภทหลายหลักเกณฑ์ แต่การกำหนดประเภทของสื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์จะต้องคำนึงถึงลักษณะที่เป็นรูปธรรม ลักษณะที่พัฒนาได้ประโยชน์ในปัจจุบันและศักยภาพเพื่ออนาคต สำหรับการเตรียมสิ่งพิมพ์เพื่อการประชาสัมพันธ์ ก่อนจะทำสิ่งพิมพ์ควรมีการวางแผนให้เรียบร้อย การวางแผนที่ดีต้องคำนึงถึง วัตถุประสงค์ ผู้อ่าน และรูปแบบ เพราะสื่อกลายเป็นองค์ประกอบที่จะขาดเสียมิได้ในการสื่อสารทุกรูปแบบ

หนังสือพิมพ์เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเผยแพร่และการประชาสัมพันธ์อสังหาริมทรัพย์ เพราะหนังสือพิมพ์เป็นสื่อมวลชนที่สามารถเข้าถึงประชาชนจำนวนมาก และมีระยะเวลากำหนดออกที่แน่นอนเป็นประจำสม่ำเสมอ หนังสือพิมพ์ผิดกับสื่อชนิดอื่นๆ ตรงที่ว่าหนังสือพิมพ์นั้นอาจจะเป็นเครื่องเร่งเร้าก่อให้เกิดประชามติขึ้นในหมู่ประชาชนได้ และขณะเดียวกันก็จะส่อประชามติของประชาชนสะท้อนออกมาให้เห็นอีกด้วย หนังสือพิมพ์เป็นเครื่องมืออันสำคัญยิ่งในวงการประชาสัมพันธ์หนังสือพิมพ์ สามารถเสนอข่าวสารเรื่องราวต่างๆหลายด้านปะปนผสมผสานกันไปในฉบับเดียวกัน มีทั้งข่าวสาร เรื่องราว ที่ประชาชนเฉพาะกลุ่มและประชาชนทั่วไปสนใจ

ปัจจุบันความนิยมในการใช้สื่อประเภทสิ่งพิมพ์เพื่อการประชาสัมพันธ์นี้มีอยู่มากและมีรูปแบบที่หลากหลายออกไปอีกมากมาย เช่นในรูปปฏิทิน รูปลอก สมุดบันทึก ซึ่งล้วนแต่เป็นสื่อที่เข้าถึงประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีอายุการใช้งานนาน แต่มีข้อจำกัดในเรื่องการนำเสนอเนื้อหาซึ่งต้องให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย เช่นแผ่นพับที่เขียนด้วยภาษาวิชาการ ถ้าส่งไปให้ประชาชนในชนบท อาจจะไม่สามารถเข้าใจเนื้อหาที่ต้องการประชาสัมพันธ์ได้เลย หนังสือพิมพ์เป็นเครื่องมืออันสำคัญยิ่งในวงการประชาสัมพันธ์หนังสือพิมพ์ สามารถเสนอข่าวสารเรื่องราวต่างๆหลายด้านปะปนผสมผสานกันไปในฉบับเดียวกัน

สื่อสิ่งพิมพ์และหนังสือวารสารที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

7

หากสำรวจสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์บ้านเรา จะพบข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งว่าสิ่งพิมพ์ดูเหมือนจะเป็นปัจจัยสำคัญในการประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น ใบปลิว แผ่นพับโฆษณา นิตยสาร วารสาร หรือจุลสาร ที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งวารสารฉบับที่ท่านกำลังอ่านอยู่นี้ด้วยก็เป็นสิ่งพิมพ์ตามกฎหมายเช่นเดียวกัน ในเมื่อกฎหมายเป็นกฎเกณฑ์ที่วางแบบแผนปฏิบัติในสังคม สิ่งพิมพ์ย่อมอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ที่กฎหมายวางแบบแผนปฏิบัติไว้ด้วย ดังนั้นหากผู้ใดมีความประสงค์จะจัดทำสิ่งพิมพ์สักฉบับหนึ่งจึงควรพิจารณาดูว่ามีกฎหมายกำหนดกฎเกณฑ์อะไรไว้บ้างเพื่อป้องกันไม่ให้ตนต้องได้รับผลกระทบจากการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎหมายฉบับสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสิ่งพิมพ์แต่เดิมนั้น คือ พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ.2484 แต่เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับมานานแล้วและมีหลายบทบัญญัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่น การสั่งปิดกิจการหนังสือพิมพ์

ในการประกาศใช้พระราชบัญญัติจดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.2550 นั้น กฎหมายให้เหตุผลว่า เนื่องจากบทบัญญัติบางมาตราในพระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ.2484 ไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและสถานการณ์ในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพิมพ์อื่น ๆ อีกหลายฉบับรองรับไว้เพียงพอต่อการคุ้มครองประโยชน์ของรัฐและประชาชนแล้ว จึงยกเลิกกฎหมายว่าด้วยการพิมพ์และให้มีกฎหมายว่าด้วยจดแจ้งการพิมพ์เพื่อวางหลักเกณฑ์ในการรับจดแจ้งการพิมพ์เป็นหลักฐานให้ทราบว่า ผู้ใด เป็น ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา บรรณาธิการ หรือเจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบของประชาชนผู้ที่ได้รับความเสียหายในการฟ้องร้องดำเนินคดี หากพิจารณาดูตามเหตุผลของกฎหมายแล้ว ดูเหมือนว่ากฎหมายฉบับนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับแวดวงอสังหาริมทรัพย์เลย แต่ในความเป็นจริงสิ่งพิมพ์ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์กลับมีอยู่มากมาย หลายท่านอาจจะมองว่าการจัดทำสิ่งพิมพ์เป็นหน้าที่ของโรงพิมพ์ผู้ว่าจ้างไม่ได้ดำเนินการเอง ซึ่งการมองเช่นนี้อาจเป็นการมองข้ามประเด็นทางกฎหมายที่สำคัญไป เพราะเรื่องการพิมพ์นี้มีภาษากฎหมายที่ต้องให้ความสนใจ คือ คำว่า “สิ่งพิมพ์” กับ “หนังสือพิมพ์” หลายท่านอาจสงสัยขึ้นมาอีกว่าสิ่งพิมพ์ก็ไปจ้างโรงพิมพ์ทำ หนังสือพิมพ์ก็ให้นักข่าวมาเขียนข่าวหรือไม่ก็เขียนบทความไปให้หนังสือพิมพ์ลง ดูแล้วไม่เห็นจะเกี่ยวกับแวดวงอสังหาริมทรัพย์ไปได้เลย ผู้เขียนอยากให้ท่านลองพิจารณาต่อไปครับ

การซื้ออสังหาริมทรัพย์ธุรกิจการลงทุนทำได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว

การซื้อบ้านนอกจากการใช้เป็นที่อยู่อาศัยแล้วยังถือเป็นการลงทุนอีกประเภทหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ภาวะดอกเบี้ยเงินฝากตกกราวรวดอย่างเช่นในปัจจุบัน มักจะเห็นคนถอนเงินจากธนาคารไปลงทุนด้วยวิธีการอื่นๆ แทน อาทิ การลงทุนในพันธบัตร การลงทุนในตลาดทุนหรือการลงทุนในหุ้น การลงทุนในตราสารหนี้ การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ การซื้อทอง รวมถึงการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์  สาเหตุที่การลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีความน่าสนใจ เพราะปัจจุบันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กำลังเริ่มฟื้นตัวอยู่ในช่วงขาขึ้น แนวโน้มของราคาสินทรัพย์มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อัตราผลตอบแทนในการลงทุนอยู่ที่ประมาณ 10-20% จากการให้เช่าโดยที่ยังไม่รวมกำไรจากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่อาจเกิดในอนาคต

การซื้ออสังหาริมทรัพย์จึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในยุคปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น ปัจจุบันดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารอยู่ที่ประมาณ 2% หากถอนเงินจากธนาคารมาลงทุนซื้อบ้านไว้สักหนึ่งหลังเพื่อปล่อยให้เช่าในอัตรา 1% ของราคาบ้านที่ซื้อ เช่น ซื้อบ้านมา 500,000 บาท ปล่อยเช่าในอัตรา 1%ของราคาซื้อ เท่ากับ 5,000 บาทต่อเดือน ในเวลา 1 ปี จะได้ผลตอบแทนคิดเป็น 12% ของราคาซื้อบ้านที่ลงทุนไป ซึ่งคุ้มค่าการการฝากเงินถึง 10%

การซื้ออสังหาริมทรัพย์ทรัพย์สำหรับการลงทุนมีหลักและข้อควรพิจารณา สำหรับผู้ซื้ออย่างบางประการ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุด ประการแรก อสังหาริมทรัพย์ที่ซื้อต้องมีสภาพคล่องสูงพอสมควร คือ สามารถขายออกไปได้เร็วในกรณีที่ผู้ซื้อต้องการจะขาย ดังนั้นการเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์จึงควรอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพเพียงพอและมีโอกาสขายคืนในอนาคตสูง โดยผู้ซื้อต้องพิจารณาก่อนว่าต้องการซื้อเพื่อขายออกไปภายในกี่ปี ถ้ากำหนดเวลาไว้สั้นไปการขายออกจะค่อนข้างลำบาก นอกจากนั้นผู้ซื้อต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในระหว่างการถือครอง เช่น การ ซ่อมแซม การดูแลรักษาด้วย

ปัจจุบันอสังหาริมทรัพย์ที่น่าลงทุน คือ ห้องชุด และทาวน์เฮาส์ เนื่องจากให้ผลตอบแทนในการลงทุนสูงกว่าอสังหาริมทรัพย์ในประเภทอื่น การเลือกซื้อในทำเลที่เหมาะสมจะช่วยให้อสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นที่สนใจต่อการขายหรือเช่ามากขึ้น นับตั้งแต่ช่วงวิกฤติเป็นต้นมา ทำเลที่มีการซื้อ-ขายเปลี่ยนมืออสังหาริมทรัพย์กันมากที่สุดคือย่านกลางเมือง ดังนั้นทำเลในย่าน สุขุมวิทจนถึงเพลินจิตจึงเป็นทำเลที่เหมาะสำหรับการลงทุน เพราะสามารถปล่อยเช่าได้ง่าย เช่นเดียวกับย่านสีลม สาทรจนถึงพระราม 3

 

 

วารสารนำเสนอข้อมูลสถิติและเนื้อหาความรู้ที่หลากหลายเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์

สิ่งพิมพ์ที่เกี่ยวข้องกับแวดวงอสังหาริมทรัพย์

คือ หนังสือพิมพ์ ซึ่งหากพิจารณาการประกอบกิจการในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าการสื่อสารการตลาดระหว่างผู้ประกอบการกับลูกค้าให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ภาคอสังหาริมทรัพย์หลายบริษัทมักจะจัดทำนิตยสารหรือวารสารนอกเหนือจากแผ่นพับ แผ่นโฆษณา เพื่อเสนอข้อมูลข่าวสารให้แก่ผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายกันอย่างแพร่หลาย และหากพิจารณาจากความหมายของกฎหมายจะเห็นได้ว่าทั้งนิตยสารและวารสารล้วนจัดเป็นหนังสือพิมพ์ตามกฎหมายทั้งสิ้น ซึ่งการจัดทำหนังสือพิมพ์นั้นจะมีผู้ที่มีบทบาทสำคัญอยู่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มของ เจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ ผู้พิมพ์ หรือผู้โฆษณา กลุ่มหนึ่ง และกลุ่มของผู้รับผิดชอบในการจัดทำและควบคุมเนื้อหา ข้อความ หรือภาพ ที่ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์อีกกลุ่มหนึ่ง

เนื่องจากอุตสาหกรรมก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นธุรกิจหลักที่เติบโตไปพร้อมกับการพัฒนาประเทศ มีการนำวิทยาการและเทคโนโลยี ตลอดจนนวัตกรรมใหม่ๆมาใช้ปรับปรุงงานด้านต่างๆให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงขึ้นตลอดเวลา เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการและสรรสร้างคุณภาพชีวิตยุคใหม่ให้ดียิ่งขึ้น บริษัทฯ จึงได้จัดทำวารสารเพื่อผู้ประกอบวิชาชีพในสายงานอุตสาหกรรมก่อสร้าง สถาปนิก วิศวกร นักบริหารงานก่อสร้าง นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และผู้ที่เกี่ยวข้องในแวดวงการก่อสร้าง ตลอดจนอาจารย์ นิสิต นักศึกษาและบุคคลผู้สนใจทั่วไป นำเสนอข่าวสาร ความเคลื่อนไหว ข้อมูลต่างๆในวงการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ ครอบคลุมถึงงานก่อสร้างในแขนงต่างๆ อย่างครบวงจร

ด้วยการนำเสนอข้อมูลสถิติและเนื้อหาความรู้ที่หลากหลาย

ที่เป็นการสะท้อนภาวะตลาดที่อยู่อาศัยที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลาอย่างทันสถานการณ์ รวมทั้งที่เป็นการส่งสัญญาณเตือนตลาด การวิเคราะห์แนวโน้มตลาดหรือการเสนอแนะเชิงนโยบายต่อรัฐบาล ผู้ประกอบการหรือหน่วยงานต่างๆอย่างต่อเนื่อง วารสารมีลักษณะพิเศษที่ทำให้ได้รับการยอมรับและเชื่อถืออย่างกว้างขวางจากผู้ประกอบการ หน่วยงานภาครัฐ มหาวิทยาลัยและผู้อ่านที่อยู่ในวงการที่อยู่อาศัยของไทย เป็นนิตยสารด้านอสังหาริมทรัพย์ซึ่งได้รับการตอบรับด้วยดีเสมอมาจากท่านผู้มีอุปการะคุณ และท่านผู้อ่านหลากหลายแขนง ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลเพื่อการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย ของตกแต่งบ้าน รวมไปถึงความรู้ต่างๆที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ และเรื่องทั่วๆไป

วารสารมุ่งเน้นไปที่คนที่มีความสนใจในตลาดอสังหาริมทรัพย์

ผู้อ่านส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาบ้านใหม่ หรือมองหาช่องทางทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ผ่านสื่อของเรา คุณไม่เพียงสามารถหาผู้ซื้อ แต่ยังพบนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ตัวแทนขาย หรือสำนักงานกฎหมายจะประสบความสำเร็จร่วมกัน นอกจากนี้เมื่อหนังสือวารสารเราถูกวางตามสำนักงานและโชว์รูมต่างๆทั่วเมืองจะช่วยให้บริษัทของคุณถูกพบเจอจากแหล่งตลาดอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่น และนี่คือการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของความสำเร็จและความน่าเชื่อถือให้กับองกรณ์ของคุณอีกด้วย

 

วารสารอิเล็กทรอนิกส์เป็นกลยุทธ์การตลาดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ช่องทางหนึ่งของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

19149948
เนื่องจากอุตสาหกรรมก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นธุรกิจหลักที่เติบโตไปพร้อมกับการพัฒนาประเทศ มีการนำวิทยาการและเทคโนโลยี ตลอดจนนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ปรับปรุงงานด้านต่างๆ ให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงขึ้นตลอดเวลา เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการและสรรสร้างคุณภาพชีวิตยุคใหม่ให้ดียิ่งขึ้นวารสารอิเล็กทรอนิกส์รรายสองเดือน เพื่อผู้ประกอบวิชาชีพในสายงานอุตสาหกรรมก่อสร้าง สถาปนิก วิศวกร นักบริหารงานก่อสร้าง นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และผู้ที่เกี่ยวข้องในแวดวงการก่อสร้าง ตลอดจนอาจารย์ นิสิต นักศึกษาและบุคคลผู้สนใจทั่วไป นำเสนอข่าวสาร ความเคลื่อนไหว ข้อมูลต่างๆ ในวงการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ ครอบคลุมถึงงานก่อสร้างในแขนงต่างๆ อย่างครบวงจร

การแข่งขันในวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในปัจจุบันนั้น เริ่มขยายวงกว้างมากกว่าอดีตที่ผ่านมา ทำให้ผู้ประกอบการคิดค้นกลยุทธ์การตลาดใหม่เข้ามาเร่งการตัดสินใจลูกค้า อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารูปแบบการแข่งขันจะเปลี่ยนแปลงมากขึ้น แต่กลยุทธ์หลักที่ยังคงนำมาเร่งตัดสินใจลูกค้ารวมถึงดึงให้ลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อบ้านในโครงการของแต่ละบริษัทยังคงเกี่ยวเนื่องกับราคาขาย และทำเลที่ตั้งโครงการเป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลายๆ ราย เริ่มสร้างความต่างในด้านการแข่งขัน โดยการดึงเอารูปแบบการใช้ชีวิต และการอยู่อาศัย ในบ้านมาเป็นจุดขาย ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวนั้นเริ่มเป็นที่ได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากในการพัฒนาการแข่งขันดังกล่าวจำเป็นต้องมีการสร้างมูลค่าเพิ่ม และการให้คุณภาพชีวิตจากการอยู่อาศัย ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้ามีความเป็นอยู่ที่ดี สะดวกสบายในอนาคตระยะยาว รวมถึงตอบโจทย์การอยู่อาศัยในบ้านอย่างแท้จริง หรือที่เรียกได้ว่า การขายบ้านพร้อมคุณภาพชีวิต และคุณภาพการอยู่อาศัย

ซึ่งกลยุทธ์นั้นแม้ว่าจะดึงดูดใจลูกค้าเพราะเป็นการให้ลูกค้ามากกว่าคำว่าการขายบ้าน เพราะรูปแบบกลยุทธ์ตลาดนั้นเป็นเสมือนการขายบ้านและชีวิตที่มีความสุขในการอยู่อาศัย ทำให้มีต้นทุนในการตลาดที่สูง และจะส่งผลให้บ้านมีราคาสูงขึ้น ดังนั้นรูปแบบการตลาดดังกล่าวมีไม่มากในประเทศไทย

ธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์มีมากขึ้น และในทุกสาขาต่าง ๆ ไม่ว่าจะลงทุนด้านใด ก็มักจะต้องเริ่มด้วยที่ดิน และการลงทุนด้านกายภาพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Real Estate เสมอ นอกจากนั้นผู้เป็นเจ้าของธุรกิจจริง ๆ ทั้งที่ดิน และกิจการร่วมทั้งหลายไม่ว่าจะซื้อและขายก็ต้องมีพื้นฐานความรู้ เพื่อที่จะเข้าใจในระบบต้นทุน ราคาขาย และกำไร เพื่อจะนำไปต่อรองในธุรกิจการค้าต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วารสารอิเล็กทรอนิกส์เป็นช่องทางหนึ่งในการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ถ้าคุณมีความฝันที่จะเป็นมหาเศรษฐีแล้วละก็ อสังหาริมทรัพย์นี่แหละเป็นทางเลือกที่ดีในการทำธุรกิจเพราะโอกาสดีๆมักมาจากธุรกิจนี้ วันนี้เรานำวิธีดีๆเพื่อให้คุณได้เอาเทคนิคต่างๆไปปรับใช้เพื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

1.ศึกษาข้อมูล

ศึกษาตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศของคุณ วิเคราะห์ปัญหาหรือยอดของตลาดในประเทศรวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียงปัจจัยทั้งหมดที่ก่อสร้างใหม่ รวมไปถึงสอบถามตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ที่จะให้คุณสถิติบางอย่างกับตลาดในประเทศได้ และมีความรู้ (Knowledge) การสร้างความรู้ให้ตัวเองเป็นการลดเวลาในการทำงานได้เป็นอย่างดี มันต่างกันแน่นอนระหว่างคนที่ลุยทำอะไรไปเรื่อย แต่จับต้นชนปลายไม่ถูก กับคนที่มีความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองจะทำเป็นอย่างดี สิ่งที่คุณควรจะต้องรู้หากต้องการเป็นนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย วิธีการหาและประเมินทรัพย์สิน วิธีการลงทุน ความรู้ทางการเงิน วิธีการปล่อยเช่า การทำธุรกรรมสัญญา การตกแต่งซ่อมแซมอสังหาริมทรัพย์และอื่นๆ เรื่องราวเหล่านี้อาจไม่ได้มีคอร์ส อบรมสัมมนาที่ไหน แต่คุณสามารถเรียนรู้ได้ด้วยการลงทุนเวลา เข้าไปคลุกคลีกับกลุ่มคนที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ อ่านหนังสือ หรือแม้กระทั่งค่อยๆ เริ่มต้นเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ความรู้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ดังนั้นจงใช้เวลาลงทุนกับมันให้มากพอก่อนเริ่มต้น High Understanding, High Return

2.ประเมินการ

การประเมินวัฏจักรเศรษฐกิจอัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ และการไหลของเงินทุนในเมืองที่คุณสนใจ เมื่อคุณซื้ออสังหาริมทรัพย์ผ่านตัวแทนอสังหาริมทรัพย์จำไว้ว่าตัวแทนทำงานบนพื้นฐานค่านายหน้า คุณสามารถค้นหาสถานที่ให้บริการโดยไม่ต้องจ่ายค่านายหน้าตัวแทนและประหยัดเงินต้นทุนของตัวเองได้

3. ค้นหาสถานที่

มองผ่านโฆษณาในหนังสือพิมพ์ วารสารอิเล็กทรอนิกส์ แล้วลองร่างพื้นที่ที่มีการขายของที่ดินออกมา หรือสอบถามจากญาติพี่น้อง คนรู้จักเพื่อหาขอมูลถึงของเจ้าของพื้นที่ที่จะขายทรัพย์สินของพวกเขาได้

4. คิดและวิเคราะห์

วิเคราะห์สถานที่อย่างทั่วถึง เรียนรู้เกี่ยวกับสภาพของบ้านที่และปัจจัยแวดล้อม เช่น สิ่งอำนวยความสะดวกในบริเวณใกล้เคียง (รถไฟฟ้า), ตลาด, ห้างสรรพสินค้า

5. พิจารณาสภาพของทรัพย์สิน

ลองดูว่า อสังหาริมทรัพย์ที่เราซื้อนั้น จะต้องมีการซ่อมแซมใดๆ หรือไม่ เมื่อคำนวนแล้วคุ้มค่าหรือไม่ กับเวลาและเงินค่าปรับปรุง

6.คำนวนเวลาให้เหมาะสม

ควรคำนวนเวลาที่เราซื้ออสังหาริมทรัพย์มา และนับเวลาในอนาคต คำนวนว่าเราจะได้กำไรประมาณเท่าไร

ลองนำเทคนิค 6 ข้อนี้ ไปปรับให้เข้ากับการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของคุณดู ไม่แน่อาจจะมีเศรษฐีเงินล้านอีกคน ที่เป็นคุณก็ได้ และเราต้องเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และดูช่องทางใหม่ที่จะนำพาเราไปสู่ความสำเร็จด้วย